เมื่อวาน(วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560) ขณะที่ผมกำลังขับรถไปไร่ที่ลพบุรี ได้มีพรรคพวกที่เป็นคนไทย ทำงานอยู่ที่แผนกสปา ในรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดในโลก(จากหนังสือจัดอันดับรีสอร์ทเด่น เมื่อปลายปีที่แล้ว)ที่ชื่อว่า Soneva Fushi ประเทศมัลดีฟ ได้ส่งรายงานพร้อมทั้งรูปด้วยความตื่นเต้นมาให้ดูว่า คนทั้งเกาะ หมายถึงทั้งพนักงงาน ที่มีประมาณ 500 คน และแขกผู้มาพัก(มีแค่ 60 หลัง แต่พนักงานประจำเกือบ 500 ชีวิต ค่าที่พักรีสอร์ทแห่งนี้ ต่ำสุดวันละ 6,000 – 20,000 ดอลลาร์เท่านั้นเอง)ตื่นเต้นกับการที่ได้เห็นดอกเห็ดออกมาเต็มหน้าก้อน ในโรงเรือนเพาะเห็ดของรีสอร์ทแห่งนี้ จากนั้น ทั้งวัน ผมก็ได้รับทั้งรายงานและรูปเกี่ยวกับเรื่องนี้จากคุณกอร์ดอนและพนักงานที่ดูแลโครงการเพาะเห็ด ที่ประเทศมัลดีฟ
คำถามก็คือ ติ่นเต้นอะไรกันนักหนา เพราะที่ไหนๆในโลก เขาก็เพาะเห็ดกันได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ก็เพาะได้ดีกว่านี้ตั้งเยอะ แถมมีผู้เพาะเห็ดขั้นเทพเต็มบ้านเต็มเมือง แล้วจะไปตื่นเต้นทำไม
คำตอบว่า ที่เขาตื่นเต้น เพราะเขาพยายามที่จะเพาะเห็ดให้ได้อย่างที่ต่างประเทศเขาเพาะกันมาร่วม 10 ปีแล้ว โดยทั้งใช้เงินลงทุนไปมากมายหลายล้านบ้าน เขาได้จ้างผู้เชี่ยวชาญเห็ดชั้นนำของโลก ที่ตลอดชีวิตเขียนๆๆๆๆหนังสือหนาเป็นร้อยๆหน้า มาแนะนำส่งเสริม โดยนำเอาวัสดุเพาะมาจากต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ผลสุดท้าย ก็ได้จ้างเกษตรกรผู้เพาะเห็ดอยู่แล้ว จากประเทศศรีลังกา มาดูแลวิธีการเพาะ โดยมีคุณกอร์ดอน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเห็ดมาก่อน ที่เคยไปสอนเรื่องเห็ดในหลายประเทศของยุโรปตะวันออก มาดูแลโครงการได้ประมาณ 4 ปี จนถึงปัจจุบัน แต่เห็ดที่ออกมาน้อยมาก เฉลี่ยแล้ววันหนึ่งไม่ถึง 2 กก. ด้วยการสั่งซื้อเชื้อเห็ดมาจากประเทศศรีลังกา ที่ผมเคยไปสอนมาระหว่างปี พ.ศ.2528-2532 ที่สอนให้เขาเพาะเห็ดนางรมและเห็ดเป๋าฮื้อเท่านั้น ที่สำคัญที่เป็นปัญหา อันเป็นเหตุให้ผลผลิตมีน้อยและไม่ค่อยได้ผล เพราะกว่าจะได้วัสดุเพาะมาทีละนิดทีละหน่อย ต้องเอาไม้เฉพาะ เช่น ไม้จากต้นหูกวางเอามาเลื่อย เพื่อจะให้ได้ขี้เลื่อย ที่จะเอามาเป็นวัสดุเพาะเห็ด
คุณกอร์ดอน ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโครงการมานานถึงสี่ปี ได้พยายามขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากผม ที่จะแนะนำให้เขาสามารถเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น และสามารถใช้ต้นไม้ทั่วไปที่มีอยู่ที่เกาะดังกล่าวเอามาเพาะเห็ด ผมก็ได้ให้คำแนะนำมาโดยตลอดที่มีความตั้งใจว่า พอเสียทีกับการใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศที่เคยไปทำงานมาแล้วในฐานะผู้เชี่ยวชาญเห็ดขององค์การสหประชาชาติกว่า 20 ปี ทั้งในเอเซียและแอฟริกา ผมมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะตั้งหน้าตั้งตาทำฟาร์มเห็ดเล็กๆในเมืองไทยในบั้นปลายชีวิตอย่างมีความสุขก็พอแล้ว แต่ก็ทนใจอ่อนไม่ได้ ที่เห็นคุณกอร์ดอนพยายามปลุกปล้ำเรื่องนี้ด้วยความวิริยอุตสาหะ ผมจึงตอบโอเค ที่จะเดินทางไปดูความเป็นไปได้ให้ ด้วยการเดินทางไปกับน้องสาวผม คือ อาจารย์อรทัย เอื้อตระกูล อดีตผู้เชี่ยวชาญพิเศษกรมวิชาการเกษตร จากนั้น ผมจึงตัดสินใจไปกับอาจารย์แม่ คือ อาจารย์เยาวนุช เอื้อตระกูล และลูกสาว คือ คุณอรนุช เอื้อตระกูล ไปดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นทำเชื้อบริสุทธิ์ แล้วนำเอาเศษซากพืชเท่าที่มีอยู่ ที่ไม่มีในรายงานที่ไหนในโลกว่า ต้นไม้ต่างๆที่เกิดขึ้นตามเกาะแก่งติดทะเล สามารถเอามาเพาะเห็ดได้ นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญเห็ดจำนวนมาก มั่วและคิดเอาเองว่า ต้นไม้ที่ติดหรือเกิดขึ้นใกล้ทะเลไม่สามารถเอามาเพาะเห็ดได้ แต่ผมมั่นใจว่าได้ เพราะสังเกตจากตรวจดูต้นไม้ต่างๆ ทั้งเล็ก ใหญ่ที่เขาตัดทิ้งไว้มันเน่าได้ แถมยังมีเห็ดธรรมชาติเกิดขึ้นอีก ต้องสามารถนำเอาไปเพาะเห็ดได้อย่างแน่นอน ผมและลูกสาวใช้เวลาอยู่ที่นั่นเพียง 14 วัน(อาจารย์แม่กลับก่อน)ทำการนำเอาวัสดุที่เป็นเศษซากของต้นไม้ ที่ทางรีสอร์ททำการแผ้วถาง ตัดแต่ง เอามาบด(โดยไม่มีการนำเอาวัสดุเพาะมาจากข้างนอกเลย) แล้วเอามาผ่านขบวนการหมักแบบเร่งรัด ก่อนที่จะเอามาเพาะเห็ดตามกรรมวิธีทั่วไป
ตรงนี้ไง ที่ทำให้คนทั้งเกาะตื่นเต้นกัน ที่เห็นเห็ดออกมาบานสะพรั่งทั้งโรง ด้วยเทคโนโลยีที่จับต้องได้ และทำการผลิตที่นั่นทั้งหมด ทั้งเชื้อบริสุทธิ์ หัวเชื้อ ก้อนเชื้อ จึงถือว่า เป็นครั้งแรกและครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศมัลดีฟ ที่สามรถประกาศความเป็นไทแก่ตัวเองว่า จากนี้ไป เขาสามารถเพาะเห็ดต้วยตัวเอง ใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่น ทำเชื้อเห็ดบริสุทธิ์และหัวเชื้อเห็ดได้เอง ซึ่งจากนี้ไป ทางรีสอร์ท มีโครงการขยายถ่ายทอดวิชาการให้แก่ประชาชนของประเทศมัลดีฟ ที่อยู่อาศัยตามเกาะต่างๆกว่าสองพันเกาะ รวมทั้งรีสอร์ทอีกมากกว่า 200 เกาะ นี่เป็นความสุขของชีวิตในฐานะครู ที่ได้เห็นผลงานของลูกศิษย์ที่ดีอกดีใจกันทั่วทั้งเกาะครับ ดูทั้งดอกเห็ด และบรรยากาศฉลองด้วยการนำเอาเห็ดมาทำอาการทานกันสิครับ

นี่แหละครับ ที่จะเอาความรู้และประสบการณ์ทั้งหมด เอามาสอนให้แก่ผู้สนใจคนไทย ในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 ในเรื่อง การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ ที่ควรจะเลิกเสียทีกับการยึดมั่นถือมั่น ในวัสดุเพาะ ที่จะต้องเป็นขี้เลื่อยไม้ยางพาราเท่านั้น ขณะนี้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราหายากและมีราคาแพงขึ้นตลอดเวลา เราควรหันมาเพาะเห็ดด้วยการใช้วัสดุทั่วๆไปที่มีอยู่ดาดดื่นทั่วไป แต่วิธีการจะใช้จำทำอย่างไรนั้น จะนำมาสอนโดยละเอียดในวันอบรมครับ

ท่านที่สนใจอบรม การเพาะเห็ดเศรษฐกิจแนวใหม่ สามารถสมัครหรือติดต่อสอบถามได้ที่ 029083308, 0860830202 Line : mushroom10