ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล

สูตรของหมอพื้นบ้าน คุณลุงสิทธิ์ มณีแก้ว แห่งอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ที่ได้สูตรอาหารเหนือรักษามะเร็งของพ่อที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แล้วหมอให้เอากลับมาสิ้นใจที่บ้าน โดยพ่อบอกว่า ก่อนตาย ขอกินอาหารที่ชอบที่สุด รอมานานแล้ว เพราะถูกหมอห้ามกินมาตั้งแต่รู้ว่าเป็นมะเร็ง และต้องรักษาตามวิธีการแพทย์แผนใหม่ แต่แทนที่ แกงแคดังกล่าว จะเป็นมื้อสุดท้ายของพ่อคุณลุงสิทธิ์ ก่อนที่จะเสียชีวิต ปรากฏว่า หลังจกทานแกงแคม้อนี้ไปแล้ว พ่อของลุงสิทธิ์กลับดีวันดีคืน จนหายเป็นปกติ(เพราะกินแกงแคมาโดยตลอดไม่ใช่กินแค่มื้อเดียวแล้วหาย) ดังนั้น จึงได้มีการเผยแพร่สูตรทำแกงแค ที่ทำให้พ่อของลุงสิทธิ์มีชีวิตอยู่ต่อได้อีกเกือบสิบปี แล้วก็ตายเพราะพิษสุราเรื้อรัง สูตร ที่ลุงสิทธิ์ได้อนุญาตให้ผมนำมาเผยแพร่ มีดังนี้ครับ

เด๊าแด๊บๆ แอบติดไม้ ไส้กลางดง ปงแค้นแดด แตดงวงจ้าง แม่ห้างสามผัว ดุ่นหลัวกินได้ คล้ายเรือนแตนที๋ จี้รี้ปากกา เซาะหาตามฮั้ว ตั๋วเป็นหนาม ถามไม้ปากโต๊ดฟอก
7.รายการที่เจ็ด ของผักที่ใส่ในแกงแคสูตรรักษามะเร็งระยะสุดท้าย ของพ่อหมอสิทธิ์ จังหวัดพะเยาคือ “ดุ้นหลัวกิ๋นได้”

คือ สะค้าน หรือจะค่าน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Piper ribesioides Wall.มีรสเผ็ด แก้ธาตุลมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ปวดท้อง ขับลมในลำไส้ แก้หืด หอบ ยาบำรุงธาตุ ขับเสมหะ

8.รายการที่แปด ของผักที่ใส่ในแกงแคสูตรรักษามะเร็งระยะสุดท้าย ของพ่อหมอสิทธิ์ จังหวัดพะเยาคือ “คล้ายเรือนแตนที๋”

คือ มะเขือขื่น หรือทางเหนือเรียกว่า มะเขือแจ้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Solanum aculeatissimum Jacq.มีสรรพคุณในการลดเสหะ แก้ปวดคอ แก้ไอ แก้ปวดกระเพาะ แก้โรคทรางชักในเด็ก แก้ปวดฟัน แก้โรคกามตายด้าน(ใช่ร่วมกับสมุนไพรตัวอื่น) บำรุงกำหนดได้ผลดี

9.รายการที่เก้า ของผักที่ใส่ในแกงแคสูตรรักษามะเร็งระยะสุดท้าย ของพ่อหมอสิทธิ์ จังหวัดพะเยาคือ “จี้วี้ปากกา”

คือ หน่อข่า ที่เป็นสุดยอดสมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยแทบทุกคนรู้จักและคุ้นเคย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alpinia galanga (L.) Willd.ข่ามีสาร 1-acetoxychavicol acetate (ACA) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งจากการเหนียวนำของสารก่อมะเร็ง มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคหลอดลมอักเสบ ช่วยขับเลือดลมให้เดินสะดวก ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายให้ดีขึ้น ช่วยแก้ลมแน่นหน้าอก แก้เสมหะ ขับลมในลำไส้ เป็นยาแก้ท้องขึ้น ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ท้องเดิน แก้บิด ปวดมวนท้อง ลมป่วง ช่วยขับเลือด ขับน้ำคาวปลา ขับรก มีฤทธิ์ช่วยต้านอาการแพ้ต่างๆ แก้ลมพิษ แก้โรคน้ำกัด ช่วยรักษากลากเกลื้อน แก้ฟกช้ำ ข้อเท้าแพลง เคล็ดขัดยอก แก้อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ อาการปวดบวมตามข้อ ให้ใช้ทั้งเหง้าข่าออ่อน รวมทั้งดอกอ่อนของข่า

10.รายการที่สิบ ของผักที่ใส่ในแกงแคสูตรรักษามะเร็งระยะสุดท้าย ของพ่อหมอสิทธิ์ จังหวัดพะเยาคือ “เซาะหาต๋ามฮั้ว”

ก็คือ มะระขี้นก ที่มีการค้นคว้าวิจัยว่า มันมีสรรพคุณในการลดน้ำตาลในเลือดและยับยั้งเซลมะเร็งอย่างดี มะระขี้นกมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า (Momordica charantia L. ซึ่งมีสรรพคุณ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงมีส่วนช่วยในชะลอความแก่ชราได้ เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย ต่อต้านและป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในตับอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีส่วนช่วยในการลดความอ้วน ป้องกันการตีบและหนาตัวของผนังหลอดเลือดแดง ยับยั้งเชื้อเอดส์ หรือ HIV รักษาโรคหอบหืดบำบัดและรักษาโรคเบาหวาน สามารถลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดี โดยจะออกฤทธิ์ทันทีหลังรับประทานประมาณ 60 นาที เจริญอาหาร เพราะมีสารที่มีรสขมช่วยกระตุ้นน้ำย่อยออกมามากยิ่งขึ้น ทำให้รับประทานอาหารได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ เพิ่มพูนลมปราณ ช่วยในการนอนหลับ ยบำรุงสายตา แก้อาการตาฟาง ช่วยในการถนอมสายตา ช่วยทำให้ดวงตาสว่างสดใสขึ้น แก้ตามบวมแดง แก้ไข้ที่เกิดจากการถูกความร้อน แก้อาการไอเรื้อรัง แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ รักษาแผลฝีบวมอักเสบเป็นหนอง แก้อาการคันหรือโรคผิวหนังต่างๆ ใช้ทั้งผลอ่อน ผลแก่และยอดใส่เข้าไปในแกงแค

11.รายการที่สิบเอ็ด ของผักที่ใส่ในแกงแคสูตรรักษามะเร็งระยะสุดท้าย ของพ่อหมอสิทธิ์ จังหวัดพะเยาคือ “ตั๋วเป็นหนาม”

หมายถึงยอดหวาย ซึ่งมีรสขม เต็มไปด้วยสรรพคุณทางยาและช่วยเจริญอาหาร วายจัดอยู่ในพืชสกุล Calamus viminalis Wild. มีสรรพคุณในการดับพิษร้อน พิษไข้ แก้เซื่องซึม แก้พิษ ตับปอดพิการ แก้ไอ บำรุงน้ำดี แก้ร้อนในกระหายน้ำ ใช้ส่วนอ่อนตรงปลายหยอดของลำต้น

12.รายการที่สิบสอง รายการสุดท้าย ของส่วนผสมที่ใส่ในแกงแคสูตรรักษามะเร็งระยะสุดท้าย ของพ่อหมอสิทธิ์ จังหวัดพะเยาคือ “ถามไม้ปากโต๊ดฟอก”

คือ ปลาร้า ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องพูดถึงสรรพคุณมากนัก และก็ไม่ใช่สมุนไพร ใส่เพื่อเพิ่มโปรตีน เพิ่มรสชาติความเอร็ดอร่อย ซึ่งสรุปแล้ว เจ้าสูตรที่เป็นตำนานของคนเมืองเหนือ อันได้แก่

เด๊าแด๊บๆ แอบติดไม้ ไส้กลางดง ปงแค้นแดด แตดงวงจ้าง แม่ห้างสามผัว ดุ่นหลัวกินได้ คล้ายเรือนแตนที๋ จี้รี้ปากกา เซาะหาตามฮั้ว ตั๋วเป็นหนาม ถามไม้ปากโต๊ดฟอก

นั่นก็คือ ผักคราดหัวแหวน เห็ดหูหนู พริกขี้หนูสวน เห็ดลม ดอกแค ผักชะอม สะค้าน มะเขือขื่น หน่อข่า มะระขี้นก หน่อหวาย ปลาร้า

สูตรนี้คือ สูตรดั้งเดิมที่ถูกจารึกไว้ และใช้เป็นอาหารให้แก่คุณพ่อของหมอสิทธิ์ มณีแก้ว ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แพทย์ไม่สามารถรักษาต่อไปได้ ส่งให้กลับไปสิ้นใจที่บ้าน แต่พอได้ทานอาหารมื้อสุดท้ายตามคำขอ ปรากฏว่า เกิดปาฏิหาริย์ กลับมีร่างกายดีขึ้นจนปกติ ด้วยการทานแกงแคสลับกับอาหารอย่างอื่นตามปกติ แต่เป็นประจำ มีชีวิตอยู่รอดได้เกือบสิบปี มาตายเอาเพราะพิษสุรา พ่อหมอสิทธิ์ก็เลยใช้สูตรแกงแคแนะนำให้ลูกหลาน รวมทั้งผู้ที่มาขอแนะนำ จนกระทั่งถูกยกย่องให้เป็นพ่อหมอชาวบ้านดีเด่น รักษาโรคให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งนับแต่นั้นมาโดยใช้วิธีการโภชนาการบำบัด
หมายเหตุ นี่เป็นเพียงสูตรที่เป็นตำนานที่เขาเอาเขียนไว้ให้ลูกให้หลานของเขาเอามาใช้เป็นทั้งอาหารและยา ส่วนการปฏิบัติจริงๆ อาจจะไม่จำเป็นจะต้องทำหรือใส่ให้เหมือนกันทุกประการ อาจจะมีการปรับ ลด หรือเพิ่มสิ่งที่เราชอบเข้าไปได้ เช่น กรณีของผมๆก็จะเพิ่มพวกมะเขือ ถั่ว ถั่วพลู เห็ดอื่นๆเข้าไป แล้วแต่เท่าที่พอจะหาได้