จำได้แม่นว่า ขณะที่ผมกำลังตระเตรียมงานทำบุญบ้านที่สร้างขึ้นใหม่แทนบ้านหลังเก่า พร้อมทั้งทำบุญคล้ายวันเกิดของผมในวันที่ 15 มีนาคม 2558 นั้น ในวันที่ 5 มีนาคม 2558 ผมได้รับการติดต่อจากคุณแม่ของเด็กหญิงคนหนึ่ง ที่เป็นมะเร็งที่หมวกไต ที่กำลังได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยคุณแม่ของเด็กมีอาการหวั่นไหวในอาการของลูกสาว โดยไม่ทราบว่า จะหาหนทางช่วยชีวิตลูกอย่างไร แม้ชีวิตของลูกอยู่ในมือคุณหมอชั้นดีอยู่แล้ว แต่ก็อดเป็นกังวลไม่ได้

เนื่องจาก มีเด็กๆที่ป่วยด้วยอาการใกล้เคียงกัน ส่วนใหญ่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยความหวาดหวั่น ก็พยายามหาหนทาง หาช่องทางว่า ใครมีอะไรแนะนำเป็นทางเลือกทางเสริมบ้างไหม คุณแม่ของผู้ป่วยรายนี้ที่ชื่อคุณเต๊าะ ลูกสาวที่ป่วยชื่อ หนูน้อยคแลร์ อายุสองปีเศษ จึงได้มีโอกาสคุยกับคุณแม่ผู้ป่วยรายหนึ่ง ที่เป็นเพื่อนกัน แล้วพาลูกสาวเช่นกันมารักษาอาการป่วยที่เป็นแผลเป็นหนองทั้งตัวชื่อหนูเอพริล โดยผู้ป่วยรายนี้ เป็นแผลเรื้อรังเกือบทั้งตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้รับการรักษาด้วยการให้ยากดภูมิและยาแก้อักเสบแต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น

คุณแม่ของหนูเอพริลได้ติดต่อขอความช่วยเหลือผมมาทางเมล์ โดยผมไม่เคยรู้จักมาก่อน(แม้ปัจจุบัน ก็ยังไม่เคยเจอหรือเห็นหน้ากันเป็นๆ) ผมจึงได้แนะนำว่า ลักษณะเช่นนี้ น่าจะสามารถรักษาได้ด้วยการเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็ก เพราะ เด็กเกิดอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องชั่วคราว มันจึงแสดงอาการดังกล่าวออกมาเป็นแผลผุพองทั้งตัว โดยแนะนำให้เด็กทานอาหารที่ช่วยเสริมภูมิได้ดีและรวดเร็ว ได้แก่เห็ดบางชนิด ที่ผมได้ส่งไปให้ฟรีๆอย่างต่อเนื่อง และอาการของหนูเอพริลก็ดีวันดีคืนจนหายเป็นปกติ สามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติ ใช้เวลาไม่นานประมาณ 5-6 เดือนเท่านั้นเอง(จากอดีตที่ยิ่งรักษายิ่งทรงกับทรุด)

คุณเต๊าะ ซึ่งเป็นคุณแม่ของหนูคแลร์ได้รับข้อมูลดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อผมได้ เนื่องจากผมกำชับคุณแม่หนูเอพริลว่า กรุณาอย่าเอาที่อยู่ผมไปบอกใคร เพราะผมไม่ใช่หมอ เพียงแต่ผมแนะนำให้เด็กทานอาหารที่เสริมภูมิได้ดีเท่านั้น ก็เป็นช่วงที่ มีนักวิศวกรท่านหนึ่ง ที่เป็นคนพ่อของหนูไอซ์ที่ป่วยเป็นมะเร็งมีอาการหนักมาก โดยคุณพ่อของน้องไอซ์ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผม รายนี้ ได้คุยกับผมทางเมล์และผมเห็นว่าเด็กอยู่ในภาวะวิกฤติมาก ผมจึงรีบส่งอาหารจากเห็ดไปให้หนูไอซ์โดยผ่านทางลูกชายผมที่ดูแลร้านผมอยู่หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ชื่อไผ่ พร้อมให้เบอร์โทรของลูกผมไปด้วย แต่ก็น่าเสียดาย ที่หนูไอซ์ไม่ได้มีโอกาสทานอาหารจากเห็ดที่ช่วยเสริมภูมิได้ เพราะหนูไอซ์ได้เสียชีวิตไปก่อน ซึ่งคุณเต๊าะก็เลยขอที่อยู่และโทรของลูกชายผมจากคุณพ่อของน้องไอซ์ สุดท้ายก็ได้เขียนเมล์มาหาผม เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2558 โดยบางช่วงบางตอนผมก็ได้ตอบไปโดยคร่าวๆดังนี้ครับ….

สวัสดีค่ะอาจารย์
ขอแนะนำตัวอีกครั้งนะคะ ชื่อเต๊าะค่ะ เป็นแม่ของเด็กหญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งคนหนึ่งคะ จริงๆแล้วเขียนมารบกวนอาจารย์ครั้งหนึ่งแล้วค่ะทาง  facebook แล้วอาจารย์กรุณาตอบผ่านทาง massage  มา1 หน ทางตัวดิฉันเองพยายามติดต่อกลับไปอีกหลายครั้งแต่ไม่ได้รับคำตอบ บังเอิญว่ารู้จักกับคุณพ่อของน้องไอนส์ ( ทางFB เช่นกันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว) จึงเขียนไปปรึกษาว่าจะติดต่ออาจารย์ได้อย่างไร จนคุณพ่อเค๊าให้เบอร์คุณไผ่มาค่ะ เลยลองโทรไปแล้วได้รับคำแนะนำให้ติดต่ออาจารย์อีกครั้งทางนี้ค่ะ
ขอรบกวนปรึกษากรณีของลูกสาวนะคะ น้องเพิ่งอายุครบ 3 ขวบเต็ม ป่วยเป็น neroblastroma ที่ต่อมหมวกไตค่ะ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ศิริราช ผ่านการให้คีโมมาประมาณ 15 ครั้งแล้ว ผ่าตัดออกไปเท่าที่จะทำได้เพราะหมอบอกอันตรายมากเพราะก้อนเนื้ออยู่ติดกับอวัยวะสำคัญ จากนั้นก้อมาฉายรังสี โดนไป 12 แสง ณ เวลานี้น้องมาให้คีโม ต่อคะ หมอบอกว่า มีแผนจะให้คีโมต่อไปอีก 2 ปีทุกเดือน แต่เมื่อ2 สัปดาห์ที่แล้ว หมอให้ทำ ct เพื่อติดตามผลหลังการฉายแสง ผลออกมาว่าก้อนเนื้อที่ผ่าออกไป และหลังฉายกลับโตขึ้น ( แต่ไม่มากเท่าไหร่ค่ะ) หมอจึงสั่งให้ทำ Mibg ด่วนเพื่อหาสาเหตุของก้อนเนื้อนั้นวันนี้ผลของ Mibg ออกมาว่า มะเร็งที่เหลืออยู่ยังคง active ฟังดูน่าหนักใจเหลือเกิน พรุ่งนี้หมอสั่งให้เจาะไขกระดูก เพื่อตรวจดูการแพร่กระจายของมะเร็ง และจะเข้าปรึกษากับที่ประชุมใหญ่วางแผนเรื่องการปลูกถ่ายไขกระดูก ดูเป็นเรื่องหนักเอาการและน่ากลุ้มใจมากๆสำหรับคนที่เป็นแม่อย่างดิฉัน. อยากจะรบกวนถามอาจารย์ว่าพอจะมีทางที่จะช่วยเหลือน้องมั๊ยค๊ะ ร่างกายเค้าจะทนไหวมั๊ย กับแผนการของหมอในอนาคต พรุ่งนี้หมอสั่งให้คีโมด้วยค่ะ อาการข้างเคียงคืออาเจียนเยอะ และไม่ทานอะไรเลย เป็นเรื่องที่น่ากลุ้มใจมากๆ เพราะทางบ้านก้อพยายามทุกวิธีทาง โรคนี้หมอบอกค่อนข้างดุ และรุนแรงมาก อาจารย์พอจะมีคำแนะนำสำหรับการดูแลรักษามะเร็งในเด็กบางมั๊ยค๊ะ หนักใจและกลุ้มใจเหลือเกินค่ะ เต๊าะคุยกับคุณพ่อน้องไอนส์ และกลัวเหลือเกินคำว่าสายเกินไป..
ขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้า นะคะ รบกวนด้วยเถอะค่ะ

ผมก็รีบตอบทันทีว่า ที่ผ่านมา ที่ผมยังไม่ตอบไป เพราะทราบว่า เด็กทานอาหารไม่ได้ ก็เลยไม่รู้จะช่วยอย่างไร โดยตอบไปดังนี้ครับ …..
จำได้ดี จำได้แม่น แต่ที่เงียบไป ก็เพราะเจ้าเห็ดเป็นยานั้น มันมีหนทางเดียว คือ ต้องกินเข้าไป ปัญหาคือ เด็กไม่กิน ตรงนี้ครับ คือ ปัญหาว่า หากเด็กปฏิเสธที่จะกิน ก็ไม่รู้ว่าจะทำไงดี เพราะหากน้องหนูเขากิน น่าจะช่วยได้ เพราะเห็ดจะช่วยเสริมภูมิให้น้องหนู แม้ว่า จะต้องฉีดคีโม หรือฉายแสง แต่หากไม่สามารถที่จะทำให้แกกินได้ ก็ไม่รู้จะทำไงดี คุณมีข้อเสนออย่างไรบ้าง ที่จะทำให้น้องหนูแกกินของที่รสชาติเชยๆได้ไหม หากได้ ผมไม่เกี่ยงที่จะช่วยหนูน้อยคนนี้เลยครับ ขอให้ตอบมาว่า จะมีวิธีให้เด็กทานอาหารได้ไหม หากได้ จะได้เตรียมอาหารเสริมใส่เห็ดไว้ให้แก แล้วขอที่อยู่คุณด้วย จะได้ส่งอาหารเสริมที่มีเห็ดเป็นยาไปให้ด่วน(ฟรี)
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2558 ผมได้รับการติดต่อจากคุณเต๊าะอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับการติดต่อจากผมไป ดูคุณเต๊าะ จะมีอาการกังวลจากอาการของลูกแกมาก(โธๆๆๆๆ หัวอกคนเป็นแม่น๊ะ) และยิ่งเห็นเด็กผู้ป่วยคล้ายกันรายแล้วรายเล่าจากไป แกก็หวั่นไหว โดยแกรีบตอบมาดังนี้ ….

.
ขอขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งนะคะ ที่กรุณาตอบ ตอนนี้จิตใจหวั่นไหวมากจริงๆค่ะ เด็กห้องข้างๆกำลังจะจากไป น้องเค้าเป็นโรคเดียวกัน stage เดียวกันกับน้องคแลร์เป๊ก เลยต้องร้องไห้ไปด้วยกับอาม่าเค้า… อาจารย์ค๊ะ น้องต้องได้เห็ดในปริมาณมากน้อยแค่ไหนหรือค๊ะ มันถึงได้ผล ที่จะช่วยเค้าได้ อย่างที่เคยคุยกับอาจารย์ เราสามารถผสมกับอะไรก้อได้ใช่มั๊ยค่ะ เพื่อให้เค้ากินให้ได้ แล้วเราต้องบอกหมอปัจจุบันที่รักษาน้องอยู่มั๊ยค่ะว่าเราให้อะไรน้องทานเข้าไป ณ วินาที เต๊าะมีทางเลือกอยู่ไม่มากนัก รบกวนขอลองและจะต้องทำอย่างไรก้อได้เพื่อให้ลูกได้รับยาของอาจารย์ กลัวมากกับคำที่ว่าสายเกินไปค่ะ.. ที่อยู่นะคะ ถนนนวลจันทร์ แขวงคลองกุ่มเขตบึงกุ่ม กรุงเทพ 10230 อาจารย์กรุณามาก ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
ปล. ผสมกับน้ำหวาน( น้ำแดง) ในปริมาณนำ้แดงเยอะหน่อยแล้วใส่ syling ฉีดเป็นยาไปเลยได้มั๊ยค๊ะ

นี่เป็นสัญญานที่ดีมาก ที่คุณแม่หรือผู้ปกครองของผู้ป่วยยังมีสติอยู่ ผมจึงกำชับไปทันทีว่า ต้องตั้งสติให้มั่น อย่าตีโพยตีพา เราต้องเอาสติมาช่วยกันวิเคราะห์และพิจารณารักษาชีวิตของเด็กคนนี้ให้ได้ โดยผมได้เตือนไปดังนี้ทันที(เพราะคนที่ว้าวุ่นเช่นนี้ หากเรามีอะไรที่คอยให้กำลังใจเขาได้ เขาก็จะกลับมามีสติได้)ครับ…..

2015-03-06 9:42 GMT+07:00 Anon Auetragul <[email protected]>:

ตอนนี้ คุณจะต้องตั้งสติให้มั่น อย่าตีโพย ตีพาย หาทางเอาชีวิตลูกคืนมาเสียก่อนอื่นใด สิ่งไหนที่ช่วยกันได้ ก็ต้องช่วยกัน ตอนนี้ ผมให้ลูกสาวเอาเห็ดเป็นยาติดตัวไปที่ทำงานด้วยแล้ว พร้อมที่จะส่ง รอที่อยู่ หากได้รับที่อยู่แล้ว จะติดต่อไปที่ลูกสาวให้จัดการทันที สิ่งที่จะส่งไปให้นั้น มีสองรูปแบบ แบบหนึ่งอยู่ในซองฟอยล์ เป็นอาหารเสริมที่มีข้าวโอ๊ต ที่มีเห็ดเป็นยาอยู่ อีกรูป เป็นแคปซูล ที่ผมใช้กินทุกวัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ลองดูว่า อย่างไหน จะให้เด็กทานได้บ้าง ส่วนปริมาณ อาจจะเริ่มแต่น้อย เช่น หนึ่งช้อนชา หรือ 1-2 แคปซูลเสียก่อน ทุกๆ 2-3 ชม.ได้ยิ่งดี เรื่องหมอนั้น คุณไม่ต้องเกรงใจ บอกไปเลย เพราะนี้ ก็คือ เห็ดที่เรากินกันอยู่ทุกวันนั่นเอง อย่าไปปิดบังเขา จะส่งของไปที่ นวลจันทร์34 ถนนนวลจันทร์ แขวงคลองกุ่มเขตบึงกุ่ม กรุงเทพ 10230
จากนั้น ผมทุกคนในครอบครัว รีบเตรียมส่งของไปให้เด็กน้อยทันทีไม่รอช้า เพื่อหวังช่วยชีวิตเธอให้จงได้ นี่คือ ภาพเบื้องหลัง ที่ทั้งผม อาจารย์แม่ ลูกสาวและหลานชายช่วยกันแพ๊ก ช่วยกันห่อของส่งไปให้คุณเต๊าะเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2558 ถือว่า ต้องทำอย่างรวดเร็วและเร่งด่วน แค่ติดต่อกันได้วันเดียว ข้ามคืน พวกเรารีบดำเนินการอย่างไม่รอช้าเลยครับ

นับแต่นั้นมา จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือนและเป็นปี เราได้ติดต่อประสานงานกันตลอดเวลา และผมก็ได้ส่งอาหารจากเห็ดไปให้หนูคแลร์มาตลอดอย่างต่อเนื่อง และทราบข่าวว่า หนูน้อยมีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกันครับ โดยคุณเต๊าะได้ส่งรายงานและรูปการพัฒนาการของหนูน้อยคแลร์มาให้ดูโดยตลอดอย่างน่าดีใจและภูมิใจยิ่งครับ

และแล้ว จากชีวิตของหนูน้อยคแลร์ ที่ใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่อยู่แต่ในบ้านเพื่อรับการพักฟื้น และไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว คุณแม่ของหนูคแลร์ คือ คุณเต๊าะ เห็นว่า หนูคแลร์เริ่มมีความแข็งแรงมากพอแล้ว ประกอบเซลมะเร็วที่เคยเป็นมันหมดไปแล้วในจุดที่สำคัญ ยกเว้น ยังมีภาพมัวๆอยู่ที่ตับและบางส่วน ที่ต้องค่อยๆรักษากันต่อไป จึงได้ติดต่อผมมาว่า อยากจะพาหนูคแลร์มาพบ มาขอบคุณผม ซึ่งผมก็พยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด เพราะเดี๋ยวจะเข้าใจผิด คิดว่าผมเป็นหมอ แต่แล้วด้วยความตั้งใจอันเป็นความบริสุทธ์ใจของคุณแม่น้องคแลร์ ก็เลยนัดกันเป็นวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 โดยผมขอให้อาจารย์แม่บินกลับจากนครพนมมารอต้อนรับหนูน้อยคแลร์ด้วยกันที่อานนท์ไบโอเทค และก็ได้เจอหนูน้อยคแลร์สมใจ พร้อมทั้งคุณแม่ คุณย่าและคุณยายของหนูคแลร์ กันด้วยความปปลื้มปิติอย่างยิ่ง นี่แหละครับ ที่ผมบอกว่า เป็นที่สุดของความเป็นมนุษย์ เป็นความสุขจริงๆ ที่ได้ช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ด้วยกันครับ ดูบรรยากาศของการเจอกัน ที่ไม่สามารถพรรณาเป็นตัวหนังสือได้ ขอให้ดูจากภาพในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นวันก่อนวันคล้ายวันเกิดของหนูคแลร์ที่จะขึ้นห้าขวบแล้วครับ ขออนญาต Happy Birth Day และขอให้หนูหายวันหายคืนน๊ะลูกน๊ะ